ภาพหลุดสมภารวัดดังขอนแก่น แต่งฆราวาส-กอดจูบสีกา ล่าสุดยอมสึก-ขนทรัพย์สินขึ้นเก๋งหายไร้วี่แวว

loading...

 

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเน็ตขอนแก่นต่างพากันแชร์ภาพพระครูโอภาสธรรมวิภัช (นายสมหวัง คุณธมโม) อายุ 54 ปี เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น คู่กับหญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 30 – 40 ปี ไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภาพดังกล่าวคือพระครูโอภาสธรรมวิภัช แต่งตัวเป็นฆราวาส สวมหมวก และถ่ายภาพคู่กับสีกา

 

loading...

ผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบที่วัดศรีสว่างโนนทัน พบว่าชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังคงมีการนำภาพหลุดของเจ้าอาวาส มาแสดงให้กับผู้สื่อข่าวดูและยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง

นายเรือง สุระเสียง อายุ 75 ปี ไวยาวัจกรณ์ของวัดศรีสว่างโนนทัน กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏเป็นภาพของพระครูโอภาสธรรมวิภัช ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) พระลูกวัด รวมถึงคณะกรรมการวัดและคนในชุมชนบ้านโนนทัน ได้นำภาพดังกล่าวเข้าสอบถามถึงข้อเท็จจริง พระครูโอภาสธรรมวิภัชยอมรับด้วยตนเองว่าเป็นภาพจริงและเป็นเหตุการณ์จริง

นายเรืองกล่าวอีกว่า คณะกรรมการวัดจึงให้เจ้าอาวาสรับผิดชอบโดยลาสิกขา โดยนิมนต์พระเทพกิตติรังสี ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง ทำพิธีดังกล่าว จากนั้นอดีตเจ้าอาวาสได้มาเก็บทรัพย์สอนและสิ่งของต่างๆ โดยเฉพาะเงินสดที่เก็บอยู่ภายในกุฎิจำนวนหนึ่ง โทรทัศน์ 1 เครื่อง ขึ้นรถเก๋งส่วนตัวขับออกจากวัดศรีสว่างโนนทัน โดยไม่มีใครทราบว่าไปอยู่ที่ใด

“ในช่วงที่คณะกรรมการวัดและพระลูกวัด ได้ให้อดีตเจ้าอาวาสชี้แจงนั้น ท่านยอมรับทุกข้อกล่าวหาพร้อมระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าวที่ปรากฎในภาพได้มาทำบุญที่วัดนานถึง 1 ปี และช่วงหลังออกพรรษาได้ออกจากวัดไป 3–4 คืน ก่อนจะมีภาพข่าวดังกล่าวปรากฏออกมา ทั้งรูปถ่ายคู่กับหญิงสาว และเดินทางไปร่วมงานแต่ง ที่อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น”

นายเรือง กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้ เพราะส่งผลต่อชื่อเสียงของวัดและความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะวัดศรีสว่างโนนทัน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัด มีญาติโยมมาทำบุญและประกอบพิธีทางศาสนา หรือกิจกรรมทางศาสนามาโดยตลอด อีกทั้งอดีตเจ้าอาวาส ถือเป็นพระนักพัฒนา และเป็นพระอยู่ในพระธรรมวินัยมาโดยตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผิดกิจของสงฆ์และพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน ทำให้ต้องลาสิกขาเป็นฆราวาส ส่วนการปกครองของวัดและการประกอบพิธีทางศาสนกิจต่างๆยังคงดำเนินการไปตามปกติ โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น เข้ามาตรวจสอบและดำเนินงานให้ถูกหลักและระเบียบต่างๆต่อไป

loading...

source: khaosod