นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย แจงกรณี 3 นักเพาะกายคว้าแชมป์โลกแต่ไม่มีใครสนใจ ชี้ ผลา-วิไลพร แอบอ้างได้แชมป์โลก

จากกรณีที่มีข่าวนักกีฬาเพาะกายของประเทศไทยคว้าแชมป์เพาะกายโลก แต่กลับ ไม่ได้รับการเหลียวแลจากสมาคม เพราะถูกตัดสิทธิจากสมาคมนั้น ล่าสุด นายศุกรีย์  สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีหนังสือรับรองจากสหพันธ์กีฬาเพาะกายโลก (WBPF) รับรองร่วมยืนยันว่า รายการ แข่งขันที่มีการระบุชื่อรายการนี้ เป็นรายการแข่งขันที่จัดโดยภาคเอกชน ไม่เกี่ยวข้องภายใต้สหพันธ์กีฬานานาชาติ ที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยเป็นสมาชิก และรายการดังกล่าวไม่มีการตรวจสารต้องห้ามก่อนการแข่งขัน ขัดต่อกฎระเบียยบของสมาคมและสหพันธ์

นอกจากนั้นนักกีฬาทั้ง 3 คนนี้ไม่เคยแจ้งหรือทำหนังสือขออนุญาติเข้าร่วมการแข่งขันรายการดังกล่าวมา ยังสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ให้รับทราบมาก่อนไปแข่งขัน ซึ่งนักกีฬา นายผลา มีชัย เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยแต่ถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้ามก่อนการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก พ.ศ. 2558 ขณะนี้กำลังรอการพิจารณาโทษจากงานควบคุมสารต้องห้าม ฝ่าย วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อยู่ ขณะที่ น.ส.วิไลพร วรรณกลาง อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ได้ทำการละเมิดฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคมทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนัก กีฬาทีมชาติของสมาคมในปี พ.ศ. 2558
ทั้งนี้ถือว่า นายผลา มีชัย และ น.ส.วิไลพร วรรณกลาง ใช้ความเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติสร้างข่าว ทำให้ผู้ได้รับข่าวสารเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่่อนกับความเป็นจริง และเกิดความเสียหายต่อ กกท. ขณะที่สมาคมกีฬาเพาะกายฯ ภายใต้การกำกับของกกท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสนับสนุนนักกีฬาทุกคนที่มีคณสมับติและได้ผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐานของ สมาคมและกกท. เพื่อให้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันระดับนานาชาติ ในสหพันธ์กีฬานานาชาติที่สมาคมสังกัดอยู่ ด้วยความบริสุทธิยุติธรรม ซึ่งปีนี้ได้คัดเลือกนักกีฬาไว้ 68 คน เพื่อส่งแข่งใน 4 รายการสำคัญ ทั้งรายการชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้,รายการชิงแชมป์เอเชีย,เอเชี่ยนบี ชเกมส์ และรายการชิงแชมป์โลก ประจำปีนี้ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่าง 29 พ.ย.-5 ธ.ค. นี้ ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

 

ทั้ง 3 คนต้องเป็นทั้งนักกีฬาเอง เป็นพี่เลี้ยงให้อีกคนที่กำลังลงแข่ง และวิ่งกลับมาเตรียมตัวแข่งในประเภทของตน เป็นความทุลักทุเลที่ทุกคนสนุกและภูมิใจที่ผลออกมา “ทำได้ดีเลิศ” 3 เหรียญ กับ 1 รางวัลพิเศษ นี่คือข้อที่คนไทยทุกคนควรชื่นชมคนทั้ง 3 นี้ครับ
ส่วนนักกีฬาเพื่อนๆ กันจะกด Like ให้หรือไม่นั้น เราคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องวัดความเป็น “คน” ของท่านได้เป็นอย่างดีครับ ทำตามใจที่ท่านอยากทำกันเถิดครับ นักกีฬาเก่ง ได้ผลงานสร้างชื่อให้ประเทศระดับโลก แต่ยังกลับโดนกีดกันชัดเจนขึ้นอีกแบบนี้ มองหาทางพัฒนาไปได้ยากครับ วงการกีฬาไทย …..

 

ใครว่ายังไงไม่รู้ … แต่คุณทั้ง 3 คน พร้อมเพื่อนๆ ที่สนับสนุน คุณรู้ไหม … แม่งเจ๋งมาก!!!! บอกเลย เอ้า!!!! ขอเสียงเพื่อนๆ ชาวเพาะกายทั้งประเทศไทยหน่อยครับ Like & Share ความสำเร็จครั้งนี้กันเลยรัวๆ ครับ
ทั้งนี้เมื่อภาพและข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดง ความเห็น พร้อมร่วมยินดีที่ทั้ง 3 สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้ในครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยอีกหลายคนที่เดินแนวทางนี้ สู้ต่อไปอย่าท้อในสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ตาม

 

source: news.mthai.com